เหรียญทองแดงพระพุทธเสรฎฐมุนี

299 บาท

ทั้งนี้ จะประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ เบื้องพระพักตร์พระพุทธเสรฏฐมุนี ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม  วันศุกร์ที่  ๑๗ ตุลาคม  ๒๕๔๖  เวลา  ๑๕.๓๐ น. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์องค์อุปถัมภ์มูลนิธิฯ เสด็จเป็นประธานในพิธี

          มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นนามพระราชทานดวงตรามูลนิธิเป็นรูปพระวิมานเนื่องตามพระราชลัญจกร กำเนิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลชุดพลเอกเปรม  ติณสูลานนท์  เป็นนายกรัฐมนตรี  ได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  เนื่องในมหามงคลครบ ๒๐๐ ปี วันพระบรมราชสมภพ  พุทธศักราช  ๒๕๓๐  การเฉลิมพระเกียรติได้กำหนดแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน ประกอบด้วย คณะกรรมการสร้าง   สิ่งอนุสรณ์  คณะกรรมการจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก  คณะกรรมการประชาสัมพันธ์  และคณะกรรมการฝ่ายพระราชพิธี  ได้มีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์  ณ  บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์  ถนนราชดำเนิน  องค์อุปถัมภ์  สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ  เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา  กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์  ทรงพระกรุณารับกิจกรรมของมูลนิธิไว้ในพระอุปถัมภ์

          จากงานเฉลิมพระเกียรตินี้  คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ มีความเห็นว่า  พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  เป็นคุณอเนกอนันต์ต่อชาวไทยสืบมาถึงปัจจุบัน  เห็นควรให้กรมศิลปากรก่อตั้งมูลนิธิฯ  เพื่อดำเนินการเผยแพร่พระราชประวัติ  พระราชกรณียกิจ  ตลอดทั้งวัตถุสถานต่าง ๆ อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงสร้างขึ้นไว้ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  เพื่อให้เยาวชนไทยได้รู้จักแพร่หลายและตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณ  จะได้ร่วมช่วยกันปกปักรักษามรดกวัฒนธรรมที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ไว้  ให้ดำรงอยู่คู่บ้านเมืองสืบต่อไป

          ในอภิลักขิตสมัยที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์อุปถัมภ์มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชันษา ๘๐ ปี ในพุทธศักราช ๒๕๔๖ เห็นสมควรสร้างสิ่งอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติที่ได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประชาชนหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง          พระกรณียกิจที่สนอพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ ๓  โดยได้ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชกรณียกิจสำคัญประการหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า  ทรงดำเนินการไว้ ซึ่งคือ การปราบฝิ่น  เมื่อพุทธศักราช  ๒๓๘๒

          ฝิ่นเข้ามาสู่แผ่นดินไทยสมัยรัชกาลที่ ๑ เนื่องด้วยพ่อค้าอังกฤษส่งเข้าไปในประเทศจีน   ต่อมาพ่อค้าชาวจีนนำเข้ามาสู่แผ่นดินไทยทางหัวเมืองชายทะเลโดยเฉพาะหัวเมืองปักษ์ใต้อีกทอดหนึ่ง  จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ ๓  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงตระหนักว่าฝิ่นเป็นภัยแก่ครอบครัว เป็นอุปสรรคในการพัฒนาบ้านเมืองและการรักษาความมั่นคง เป็นสาเหตุทำให้พลเมืองอ่อนแอ ทรงห่วงใยพสกนิกรยิ่งกว่าการค้าฝิ่นที่สามารถทำรายได้อย่างมหาศาล ราคาฝิ่นสมัยนั้น หาบละ ๕,๐๐๐ บาท (๑ หาบ = ๖๐ กิโลกรัม) จึงทรงออกประกาศห้ามสูบฝิ่น  ห้ามซื้อ – ขายฝิ่น  เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน  ๒๓๘๒  และทรงกวาดล้างผู้ค้าและผู้เสพอย่างจริงจัง  นำฝิ่นดิบ ๓,๗๐๐ หาบ  ฝิ่นสุก ๒ หาบ มาเผาที่สนามไชยหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์  นำกล้องฝิ่นและกลักฝิ่นมาหล่อพระพุทธปฏิมา  ปางมารวิชัย  ขนาดหน้าตักกว้าง ๑ วา  ๑ ศอก  ๑ คืบ  ประดิษฐาน  ณ ศาลาการเปรียญ  วัดสุทัศนเทพวราราม  ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามว่า   “พระพุทธเสรฏฐมุนี”  มีความหมายว่า  พระผู้ประเสริฐสุด

          พลเอก จรัล  กุลละวณิชย์  ประธานมูลนิธิฯ ได้กล่าวว่า  พระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงปกป้องผืนแผ่นดิน เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ทรงทำนุบำรุงพสกนิกรให้เป็นพลเมืองดี มีศีลธรรม มีความรู้ มีปัญญา  เพื่อเป็นกำลังของชาติบ้านเมือง  ปรากฏว่าในรัชสมัยของพระองค์  ชาวต่างชาติได้นำฝิ่นเข้ามาเผยแพร่ในพระราชอาณาจักร  ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติด  มอมเมาพลเมือง  เสพแล้วทำให้ร่างกายปลกเปลี้ย  สติปัญญาเสื่อมถอย  พระองค์ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลว่า เมื่อพลเมืองของชาติติดสิ่งเสพติด ย่อมเป็นการบั่นทอนความมั่นคงของบ้านเมือง การที่กำลังของชาติคือประชาชนอ่อนแอหมดความรับผิดชอบในหน้าที่  ดูเป็นที่น่าเวทนา  จึงมีพระบรมราชโองการให้ปราบฝิ่นอย่างเด็ดขาด  ใน พ.ศ. ๒๓๘๒  มีการปราบฝิ่นครั้งใหญ่  ได้กลักฝิ่นซึ่งเป็นทองเหลืองจำนวนมาก  โปรดให้หล่อเป็นพระพุทธรูป  “พระพุทธเสรฏฐมุนี” เป็นพระพุทธปฏิมา  ประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศนเทพวราราม อันเป็นศาลาโรงธรรม ที่จะสั่งสอนเตือนใจพลเมือง สถานที่ตั้งอยู่ใจกลางพระนคร  เป็นศูนย์กลางที่ผู้คนควรรับรู้ได้  จึงมีความเชื่อว่าผู้ติดสิ่งเสพติดทั้งหลายจะขอกำลังใจให้ละเลิกได้

          การที่พระองค์ท่านทรงโปรดให้หล่อพุทธปฏิมา  “พระพุทธเสรฏฐมุนี”  จึงนับได้ว่าเป็นพระราชดำริที่ลึกซึ้งที่สุด เพราะหากประชาชนอ่อนแอย่อมส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศชาติด้วย และเป็นการนำเอาพระศาสนาเข้ามามีส่วนสำคัญในการสั่งสอน  เตือนใจเป็นพุทธานุ-ภาพ  เพื่อสร้างกำลังใจสำคัญให้กับผู้เลิกและค้าขายยาเสพติดได้อย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก  นับเป็นพระอัจฉริยภาพที่ใหญ่หลวง

          มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จึงดำริสร้างเหรียญ “พระพุทธเสรฏฐมุนีเฉลิมพระเกียรติ” หมายถึง พระผู้ประเสริฐสุด  เพื่อเป็น พุทธปฏิมาแก่  ประชาชนผู้หลงผิดหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดต้องการกลับตัวกลับใจหรือประสงค์ให้พุทธานุภาพเป็นเครื่องสร้างกำลังใจ  เครื่องหมายสำหรับผู้บริสุทธิ์  และเป็นการสืบสานพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ที่สำคัญยิ่ง คือ เป็นสิ่งอนุสรณ์ที่เชิดชูพระเกียรติคุณองค์อุปถัมภ์มูลนิธิฯ ซึ่งสอดคล้องกับการประกาศสงครามขจัดสิ้นยาเสพติดของรัฐบาลในยุคปัจจุบัน  ต่อไป

โดยมีวัตถุประสงค์

          ๑. เพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์อุปถัมภ์มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวโรกาสทรงเจริญพระชันษา ๘๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๔๖

          ๒. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎา ราชเจ้า  ในการปราบฝิ่นเมื่อพุทธศักราช  ๒๓๘๒

          ๓. เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติไทย

          ๔. เพื่อเป็นการเชิดชูการปฏิบัติงานของรัฐบาลที่มุ่งมั่นปราบปรามยาบ้าให้หมดไปจากแผ่นดินไทย

          ๕.  เพื่อหาทุนให้มูลนิธิฯ

ของที่ระลึก

พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า “พระบิดาแห่งค้าไทย”