ReadyPlanet.com
dot
เกี่ยวกับรัชกาลที่ 3
dot
bulletพระราชประวัติ ร.3
bulletพระราชกรณียกิจก่อนเสวยราชย์
bulletพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
bulletรัชกาลที่ 3 กับเทคโนโลยีสารสนเทศ
bulletการเสด็จขึ้นครองราชย์
bulletพระราชกรณียกิจด้านการเมืองการปกครอง
bulletการพระศาสนา
bulletด้านเศรษฐกิจ
bullet​การปราบฝิ่น  ในรัชกาลที่ 3
bulletเงินถุงแดง
bullet ​การค้าของไทยสมัยรัชกาลที่ 3
bulletมองเมืองไทยกับต่างประเทศ  สมัยรัชกาลที่ 3 โลกาภิวัตน์ยุคดั้งเดิม
bulletด้านการศึกษา
bulletด้านศิลปกรรม
bulletด้านวรรณคดี
bulletสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในรัชกาลที่ 3
bulletตั้งเมืองในรัชสมัย
bulletทรงรักษาแผ่นดินเป็นเลิศ
bulletพระบรมราชานุสาวรีย์
bulletพระราชวิสัยทัศน์ ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า สร้างเอกลักษณ์ของชาติ
bulletฤษีดัดตนและการนวดแผนไทย
bulletประวัติศาสตร์หน้าเดียว พระราชกระแสก่อนสวรรคต ของ ร.3
bulletพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงมุ่งมั่นสู่พระโพธิญาณ
bulletประกาศห้ามสูบและซื้อขายฝิ่นในรัชกาลที่ ๓
bulletเมืองหน้าศึกสมัยรัชกาลที่ ๓
dot
ลิงค์แนะนำ
dot
รพ.พระนั่งเกล้า
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย




เมืองหน้าศึกสมัยรัชกาลที่ ๓

เมืองหน้าศึกสมัยรัชกาลที่ ๓

******

       คำว่า “เมืองหน้าศึก” สันนิฐานว่ามีมาแล้วทุกยุคสมัยของการก่อตั้งถิ่นฐานบ้านเมือง หมายถึงเมืองหน้าด่าน ที่ตั้งอยู่ชายขอบอาณาเขตของประเทศ ต้องเผชิญข้าศึก ที่ยกกองทัพ   เข้ามารุกราน หรือเป็นเส้นทางเดินทัพทั้งทางบกและน่านน้ำทางทะเล ประวัติศาสตร์รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้บันทึกว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างเมืองหน้าศึก อันเป็นเมืองที่มีป้อมปราการ ๓ แห่ง คือ เมืองกาญจนบุรี เมืองจันทบุรี และเมืองสงขลา ดังนี้

       ๑. เมืองกาญจนบุรี ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ที่เขาชนไก่ ใกล้ตำบลลาดหญ้า เมื่อครั้งทรง ดำรงพระอิสริยยศกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงเป็นแม่ทัพคุมพลมาขัดตาทัพรอรับศึกพม่าที่กาญจนบุรี ณ ตำบลปากแพรก เมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๓ ครั้งนั้น ทรงพิจารณาว่าทำเลที่ตั้งเมืองเดิมไม่เหมาะแก่การตั้งรับศึก เพราะอยู่เหนือขึ้นไป ควรอยู่ที่ปากแพรกจะสามารถรับศึกได้ดี หลังจากทรงดำรง สิริราชสมบัติแล้ว โปรดให้ตัดพื้นที่ด้านตะวันออกของเมืองสุพรรณบุรี และด้านตะวันตกของเมืองราชบุรีมาเพิ่มเป็นเขตเมืองกาญจนบุรี พุทธศักราช ๒๓๗๕ โปรดให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหา ประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ครั้งยังเป็นเจ้าพระยาพระคลัง และสมุหพระกลาโหม มาสร้างป้อมปราการที่ปากแพรก และ ย้ายเมืองกาญจนบุรีมาตั้งที่ปากแพรกตราบปัจจุบัน

       ๒. เมืองจันทบุรี  เมื่อพุทธศักราช ๒๓๗๗ ตรงกับปีมะเมีย  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระมหาเจษฎาราชเจ้า  โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์  (ดิศ บุนนาค) ครั้งยังเป็นเจ้าพระยาพระคลังสร้างป้อมปราการเมืองจันทบุรี เป็นเมืองหน้าศึก   เพื่อรับศึกญวน ณ ตำบลเนินวง และให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ทัต บุนนาค) ผู้บุตร ครั้งยังเป็น   จมื่นราชามาตย์ สร้างป้อมที่ปากน้ำเมืองจันทบุรี ๒ ป้อม ฝั่งตะวันออก ชื่อป้อมไพรีพินาศ ฝั่งเชิงเขาแหลมสิงห์ด้านตะวันตก ชื่อว่า ป้อมพิฆาตปัจจามิตร์

      ๓. เมืองสงขลา พุทธศักราช ๒๓๗๙ ตรงกับปีวอก โปรดให้ผู้ว่าราชการเมืองสงขลา พระยาวิเชียรคีรี (เซ่ง) สร้างป้อมปราการเมืองสงขลา ที่ตำบลบ่อยางให้เป็นเมืองหน้าศึกเพื่อป้องกันอริราชศัตรูทางภาคใต้

 

      การสร้าง “เมืองหน้าศึก” ในสมัยกาลที่ ๓ สร้างความมั่นคงในการปกครองบ้านเมืองสืบมาถึงตราบปัจจุบัน

 

 

*****

อนุกรรมการฝ่ายวิชาการมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์