
![]() |
เมืองหน้าศึกสมัยรัชกาลที่ ๓ เมืองหน้าศึกสมัยรัชกาลที่ ๓ ****** คำว่า “เมืองหน้าศึก” สันนิฐานว่ามีมาแล้วทุกยุคสมัยของการก่อตั้งถิ่นฐานบ้านเมือง หมายถึงเมืองหน้าด่าน ที่ตั้งอยู่ชายขอบอาณาเขตของประเทศ ต้องเผชิญข้าศึก ที่ยกกองทัพ เข้ามารุกราน หรือเป็นเส้นทางเดินทัพทั้งทางบกและน่านน้ำทางทะเล ประวัติศาสตร์รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้บันทึกว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างเมืองหน้าศึก อันเป็นเมืองที่มีป้อมปราการ ๓ แห่ง คือ เมืองกาญจนบุรี เมืองจันทบุรี และเมืองสงขลา ดังนี้ ๑. เมืองกาญจนบุรี ตัวเมืองเดิมตั้งอยู่ที่เขาชนไก่ ใกล้ตำบลลาดหญ้า เมื่อครั้งทรง ดำรงพระอิสริยยศกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงเป็นแม่ทัพคุมพลมาขัดตาทัพรอรับศึกพม่าที่กาญจนบุรี ณ ตำบลปากแพรก เมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๓ ครั้งนั้น ทรงพิจารณาว่าทำเลที่ตั้งเมืองเดิมไม่เหมาะแก่การตั้งรับศึก เพราะอยู่เหนือขึ้นไป ควรอยู่ที่ปากแพรกจะสามารถรับศึกได้ดี หลังจากทรงดำรง สิริราชสมบัติแล้ว โปรดให้ตัดพื้นที่ด้านตะวันออกของเมืองสุพรรณบุรี และด้านตะวันตกของเมืองราชบุรีมาเพิ่มเป็นเขตเมืองกาญจนบุรี พุทธศักราช ๒๓๗๕ โปรดให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหา ประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ครั้งยังเป็นเจ้าพระยาพระคลัง และสมุหพระกลาโหม มาสร้างป้อมปราการที่ปากแพรก และ ย้ายเมืองกาญจนบุรีมาตั้งที่ปากแพรกตราบปัจจุบัน ๒. เมืองจันทบุรี เมื่อพุทธศักราช ๒๓๗๗ ตรงกับปีมะเมีย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ครั้งยังเป็นเจ้าพระยาพระคลังสร้างป้อมปราการเมืองจันทบุรี เป็นเมืองหน้าศึก เพื่อรับศึกญวน ณ ตำบลเนินวง และให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ทัต บุนนาค) ผู้บุตร ครั้งยังเป็น จมื่นราชามาตย์ สร้างป้อมที่ปากน้ำเมืองจันทบุรี ๒ ป้อม ฝั่งตะวันออก ชื่อป้อมไพรีพินาศ ฝั่งเชิงเขาแหลมสิงห์ด้านตะวันตก ชื่อว่า ป้อมพิฆาตปัจจามิตร์ ๓. เมืองสงขลา พุทธศักราช ๒๓๗๙ ตรงกับปีวอก โปรดให้ผู้ว่าราชการเมืองสงขลา พระยาวิเชียรคีรี (เซ่ง) สร้างป้อมปราการเมืองสงขลา ที่ตำบลบ่อยางให้เป็นเมืองหน้าศึกเพื่อป้องกันอริราชศัตรูทางภาคใต้
การสร้าง “เมืองหน้าศึก” ในสมัยกาลที่ ๓ สร้างความมั่นคงในการปกครองบ้านเมืองสืบมาถึงตราบปัจจุบัน
***** อนุกรรมการฝ่ายวิชาการมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ |